ผู้เขียน หัวข้อ: โรคลักปิดลักเปิด  (อ่าน 8 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 588
    • ดูรายละเอียด
โรคลักปิดลักเปิด
« เมื่อ: 19 มกราคม 2025, 18:17:49 pm »
โรคลักปิดลักเปิด

โรคลักปิดลักเปิด เป็นภาวะที่ร่างกายขาดวิตามินซีขั้นรุนแรงและเรื้อรัง ทั้งจากการรับประทานอาหารที่ไม่มีวิตามินซี หรือรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้มีอาการต่าง ๆ อย่างเลือดออกตามไรฟัน ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาและปล่อยให้ร่างกายขาดวิตามินซีอยู่อย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ฟันโยก ตาโปน หรือเลือดออกใต้ผิวหนัง เป็นต้น


อาการของโรคลักปิดลักเปิด

เนื่องจากวิตามินซีเป็นวิตามินที่สำคัญต่อการทำงานของร่างกายหลายระบบ การขาดวิตามินซีจึงอาจทำให้เกิดอาการได้อย่างหลากหลาย ซึ่งอาการแรกเริ่มจะปรากฏหลังจากการขาดวิตามินซีรุนแรงอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และหากร่างกายยังคงอยู่ในภาวะขาดวิตามินซีไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้นอีก 3 เดือนจะปรากฏอาการของโรคลักปิดลักเปิดที่รุนแรงขึ้น

โดยอาการของโรคลักปิดลักเปิด มีดังนี้

อาการในระยะแรก
ในช่วงแรกนั้นอาจยังไม่มีอาการที่บ่งชี้ว่าเป็นโรคลักปิดลักเปิดอย่างเด่นชัด โดยอาการต่าง ๆ อาจคล้ายกับอาการอื่นที่ไม่รุนแรงทั่วไป เช่น

    รู้สึกไม่ค่อยสบาย หรือรู้สึกผิดแปลกไปจากปกติ
    ความอยากอาหารลดลง หรือไม่อยากอาหาร
    อารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิด โกรธง่าย
    หมดแรง เหนื่อยล้า หรือรู้สึกอ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ
    คลื่นไส้
    ท้องเสีย
    เป็นไข้
    ปวดขา เจ็บปวดตามข้อต่อกระดูกหรือกล้ามเนื้อต่าง ๆ
    เลือดออกตามรูขุมขนที่ผิวหนังเป็นจุดเล็ก ๆ ขนาดเท่าปลายเข็ม


อาการในระยะหลัง

หลังจากขาดวิตามินรุนแรงเป็นเวลา 3 เดือน อาการต่าง ๆ ของโรคลักปิดลักเปิดจะเริ่มรุนแรงขึ้น และมีลักษณะเฉพาะมากขึ้น ดังนี้

    เหงือกบอบบางหรือมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ มีสีออกม่วง และมีเลือดออกได้ง่าย
    ฟันโยก ฟันผุ
    ตาโปน ตาไวต่อแสง เห็นภาพไม่ชัด
    ผิวแห้ง ผิวเป็นเกล็ดสีออกน้ำตาล
    ขนแห้ง หยิก และแตกปลาย หรือขนแตกใกล้บริเวณโคนขน
    แผลหายช้า และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานช้าลง
    มีเลือดออกใต้ผิวหนัง หรือมีรอยช้ำสีออกแดง ม่วง หรือดำขนาดใหญ่บริเวณขาหรือแขน
    เลือดออกภายในข้อต่อหรือกล้ามเนื้อต่าง ๆ จนทำให้ขาหรือแขนในบริเวณดังกล่าวบวม หรือข้อต่อบวม
    เกิดภาวะเจ็บป่วยต่าง ๆ เช่น เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคเหงือกอักเสบ เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์หากปรากฏอาการ ดังต่อไปนี้

    เหงือกบวม มีเลือดออก และอาจฟันร่วงด้วยในบางกรณี
    ผิวช้ำง่าย หรือมีรอยช้ำสีแดงม่วงตามผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นบริเวณหน้าแข้ง
    รู้สึกเหนื่อย และหมดแรงตลอดเวลา
    รู้สึกไม่ค่อยสบาย และเศร้าตลอดเวลา
    ปวดข้อต่อ หรือปวดขารุนแรง


สาเหตุของโรคลักปิดลักเปิด

โรคลักปิดลักเปิดเกิดจากร่างกายขาดวิตามินซีเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน และเนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีขึ้นมาเองได้ การขาดวิตามินซีจึงอาจเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารที่ไม่มีวิตามินซี มีวิตามินซีน้อย หรือไม่รับประทานผักผลไม้ซึ่งเป็นแหล่งวิตามินซี

โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังต่อไปนี้ อาจมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคลักปิดลักเปิดได้มากขึ้น

    ติดยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ และมีสุขภาพร่างกายไม่ดี หรือรับประทานอาหารไม่ครบทุกหมู่
    สูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ส่งผลกระทบต่อการดูดซึมวิตามินซี ซึ่งทำให้ร่างกายใช้วิตามินซีเร็วกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่
    ตั้งครรภ์ และกำลังให้นมบุตร เพราะร่างกายต้องการวิตามินซีปริมาณมากในช่วงเวลาดังกล่าว
    ทารกในครรภ์ที่มีมารดาประสบภาวะทุพโภชนาการ
    เด็กแรกเกิดที่ถูกเลี้ยงด้วยนมข้นหวานหรือนมต้ม และเด็กที่ร่างกายมีปัญหาในการดูดซึมสารอาหาร
    ผู้สูงอายุที่รับประทานอาหารในปริมาณน้อยและไม่หลากหลาย หรือมีอายุมากจนส่งผลให้ปรุงอาหารเองหรือรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ได้ยากลำบาก
    ควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก โดยรับประทานอาหารที่มีสารอาหารและวิตามินซีไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
    รับประทานอาหารปริมาณน้อย ซึ่งอาจเกิดจากการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่ทำให้ไม่อยากอาหาร เช่น โรคการกินผิดปกติอย่างโรคคลั่งผอมอะนอเร็กเซีย (Anorexia) เป็นต้น
    กำลังได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด
    เป็นโรคไต หรือกำลังอยู่ในช่วงฟอกไต
    มีอาการเจ็บป่วยที่ทำให้ร่างกายป้องกันการดูดซึมสารอาหารหรือไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีได้ เช่น โรคโครห์น โรคการดูดซึมอาหารผิดปกติ โรคลำไส้อักเสบ หรืออาหารไม่ย่อยอย่างรุนแรง เป็นต้น
    มีรายได้น้อย จึงไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายสำหรับอาหารที่มีวิตามินซีสูง
    อยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถหาผักหรือผลไม้ที่มีวิตามินซีมารับประทานได้


การวินิจฉัยโรคลักปิดลักเปิด

แพทย์อาจวินิจฉัยโรคลักปิดลักเปิดโดยการซักถามเกี่ยวกับอาหารต่าง ๆ ที่ผู้ป่วยรับประทานในช่วงที่ผ่านมา และตรวจร่างกายรวมถึงตรวจประวัติทางการแพทย์ นอกจากนี้ แพทย์อาจทำการทดสอบอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือดเพื่อดูระดับวิตามินซีในเลือด และการเอกซเรย์กระดูกหรือข้อต่อต่าง ๆ เข่า ข้อมือ และกระดูกซี่โครง เพื่อสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงที่บ่งบอกว่าขาดวิตามินซีอย่างกระดูกบางลง เป็นต้น


การรักษาโรคลักปิดลักเปิด

แม้โรคลักปิดลักเปิดเป็นโรคที่อาจแสดงอาการค่อนข้างรุนแรงแต่กลับรักษาได้ไม่ยาก เพียงบริโภควิตามินซีให้เพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งทำได้โดยรับประทานผักหรือผลไม้วันละ 5 หน่วยบริโภค หรืออาจมีวิธีรักษาตามดุลยพินิจของแพทย์ ดังนี้

    ผู้ใหญ่ รับประทานวิตามินซีปริมาณ 800-1000 มิลลิกรัม/วัน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น
    เด็ก รับประทานวิตามินซีปริมาณ 150-300 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 1 เดือน

หลังจากร่างกายได้รับวิตามินซี อาการเลือดออกตามไรฟันและอาการทางผิวหนังต่าง ๆ มักดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนอาการอื่น ๆ มักดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายดีภายใน 2 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม หากอาการต่าง ๆ ไม่ทุเลาลง หรือปรากฏอาการที่รุนแรงขึ้น ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อปรับปริมาณการรับวิตามินซีให้เหมาะสม เนื่องจากการรักษาโรคลักปิดลักเปิดไม่มีปริมาณการให้วิตามินซีที่แน่ชัด แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานวิตามินซีในปริมาณมากติดต่อกันหลายสัปดาห์หรือนานกว่านั้นตามแต่กรณี โดยผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารเสริมวิตามินซี โดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากการบริโภควิตามินซีมากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพการทำงานของยาบางชนิดที่ใช้ หรืออาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น ทำให้คลื่นไส้ ท้องเสีย หรือทำให้ผู้ที่เป็นโรคไตเกิดนิ่วในไต เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อนของโรคลักปิดลักเปิด

หากมีอาการของโรคลักปิดลักเปิดมาเป็นเวลานานและไม่รีบรับการรักษาที่เหมาะสม ผู้ป่วยอาจปรากฏภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    เผชิญภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดง
    กระดูกหยุดงอกก่อนวัยอันควรในเด็กหรือทารก
    หัวใจวาย
    หมดสติ
    เสียชีวิต

การป้องกันโรคลักปิดลักเปิด

โรคลักปิดลักเปิดสามารถป้องกันได้โดยการรับประทานวิตามินซีให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจรับประทานผลไม้วิตามินซีสูง เช่น ส้ม มะละกอ สับปะรด มะม่วง ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี่ แคนตาลูป และเมล่อน เป็นต้น หรืออาจเลือกรับประทานอาหารเสริมวิตามินซีภายใต้คำแนะนำของแพทย์

โดยปริมาณวิตามินซีที่ควรบริโภคต่อวันโดยประมาณ มีดังนี้

    อายุ 1-10 ปี ปริมาณ 30 มิลลิกรัม/วัน
    อายุ 11-14 ปี ปริมาณ 35 มิลลิกรัม/วัน
    อายุ 15 ปีขึ้นไป ปริมาณ 40 มิลลิกรัม/วัน

ทั้งนี้ ปริมาณวิตามินซีที่ควรบริโภคต่อวันสำหรับแต่ละบุคคลอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย อย่างเพศหรือภาวะต่าง ๆ เนื่องจากผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอาจต้องบริโภควิตามินซีมากกว่าปริมาณทั่วไปที่แนะนำในบริโภคต่อวัน ดังนั้น ผู้ที่ไม่แน่ใจหรือกำลังอยู่ในภาวะต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณที่เหมาะสมก่อนบริโภควิตามินซีเสมอ

 

ลงประกาศฟรี ติด google ลงโฆษณา ขายของ ฟรี โพสต์ฟรี ลงประกาศฟรี ขายฟรี ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google