ชั้นลอยเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ทำให้บ้านของเรามีพื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้น ถือเป็นการสร้างลูกเล่นให้กับบ้านได้อีกด้วย โดยมักจะออกแบบให้เป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ชั้นวางหนังสือ หรือมุมสังสรรค์ต่างๆ หรือหากมีพื้นที่จำกัด ก็อาจจะจัดเป็นมุมหิ้งพระ และการใช้งานที่ต่างกัน รวมไปถึงสไตล์ของแบบบ้านที่ต่างกัน การเลือกวัสดุจึงต่างกันไปด้วย เพื่อให้เกิดความสวยงาม แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการใช้งานพื้นที่ ซึ่งจะมีเทคนิคการเลือกวัสดุเพื่อสร้างชั้นลอยนี้อย่างไรบ้าง
เรื่องควรรู้ก่อนออกแบบบ้านที่มีชั้นลอย
ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ห้องในอาคารซึ่งมีระยะดิ่งระหว่างพื้นถึงพื้นอีกชั้นหนึ่งตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป จะทำพื้นชั้นลอยในห้องนั้นก็ได้ โดยพื้นชั้นลอยดังกล่าวนั้นต้องมีเนื้อที่ไม่เกินร้อยละ 40 ของเนื้อที่ห้อง ระยะดิ่งระหว่างพื้นชั้นลอยถึงพื้นอีกชั้นหนึ่งต้องไม่น้อยกว่า 2.40 เมตร และระยะดิ่งระหว่างพื้นห้องถึงพื้นชั้นลอยต้องไม่น้อยกว่า 2.40 เมตร ด้วย
ทริคเลือกวัสดุสร้างชั้นลอยให้สวยงามและแข็งแรงทนทาน
เมื่อวางแผนออกแบบบ้านในฝันให้มีชั้นลอย เรื่องแรกที่ต้องคำนึงก็คือเรื่องการรับน้ำหนัก ความแข็งแรงและทนต่อการใช้งาน โดยคุณสมบัติมาตรฐานของชั้นลอยจะต้องรับน้ำหนักได้ไม่ต่ำกว่า 200 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่รวมทุกอย่างไว้ เช่น ผู้ใช้งาน เฟอร์นิเจอร์ วัสดุปูพื้น เพดาน และหากเป็นพื้นที่อเนกประสงค์รองรับแขกจำนวนมากก็ยิ่งต้องเพิ่มความสำคัญมากกว่าเดิม ซึ่งค่ารองรับน้ำหนักจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ วิศวกร หรือบริษัทรับสร้างบ้านที่มีผู้เชี่ยวชาญการสร้างบ้านและออกแบบควบคุมดูแลอย่างปลอดภัย
ดังนั้น เพื่อรองรับการใช้งานที่จะเกิดขึ้น โครงสร้างจึงควรเลือกวัสดุที่เบา โดยโครงสร้างที่เหมาะสมคือ โครงสร้างคานและตงเหล็ก ปูทับด้วยวัสดุประเภทไม้อัดหรือไม้เทียม ทั้งนี้การเลือกวัสดุต่างๆ ยังขึ้นอยู่กับประเภทของชั้นลอยอีกด้วย โดยการสร้างชั้นลอยมี 3 ประเภท ดังนี้
1. ชั้นลอยโครงเหล็ก
เป็นโครงสร้างที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะได้ชื่อว่าเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการพื้นที่ชั้นลอยเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานของเจ้าบ้านและแขกผู้มาเยือน
การออกแบบชั้นลอยส่วนใหญ่จะแยกโครงสร้างของชั้นลอยกับตัวบ้าน เพื่อป้องกันการดึงรั้งน้ำหนักจากโครงสร้างหลัก มีเสาเฉพาะเป็นของตัวเอง ซึ่งโครงสร้างเหล็กมีน้ำหนักมากกว่าโครงสร้างประเภทอื่นจึงควรกำหนดสเปกชนิดของเหล็กและการใช้งานให้ชัดเจน เพื่อให้ทางบริษัทรับสร้างบ้านคำนวณค่ารองรับน้ำหนักที่จะเกิดขึ้น รวมถึงต้องศึกษาการดูแล ทั้งความชื้น สนิม ป้องกันการผุพัง โดยชั้นลอยประเภทนี้เหมาะกับบ้านสไตล์ลอฟท์ ที่ชอบโชว์ความดิบของวัสดุต่างๆ
2. ชั้นลอยโครงไม้
ชั้นลอยโครงไม้มักพบเห็นได้บ่อยๆ จากแบบบ้านสไตล์มินิมอล ลักษณะเล็กๆ ให้บรรยากาศอบอุ่น เป็นการเพิ่มชั้นลอยเพื่อการใช้งานที่ไม่หนัก เช่น ชั้นวางหนังสือ หรือ ห้องทำงาน
แม้งานโครงไม้จะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทน สวยงาม แต่หากมองการใช้งานเป็นหลัก โครงไม้อาจจะยังไม่เหมาะกับแบบบ้านขนาดใหญ่ที่เน้นการใช้งานหนักๆ ทริคการสร้างชั้นลอยไม้จึงอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุ วัสดุไม้เทียมทดแทนจึงเป็นการเฉลี่ยน้ำหนักจากโครงสร้าง ยิ่งหากเป็นการต่อเติมภายหลัง จะเป็นการเพิ่มน้ำหนักไปที่ผนังโครงสร้างหลักอาจส่งผลต่อความปลอดภัย ดังนั้นการออกแบบโดยสถาปนิกและผ่านการขออนุญาตก่อสร้างตั้งแต่เริ่มสร้างบ้านย่อมดีกว่าการต่อเติมภายหลัง
บ้านจัดสรรโคราช: ทริคเลือกวัสดุสร้างชั้นลอยให้สวยงามและแข็งแรงทนทาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/